จับตา แถลงเงินเฟ้อ ส.ค. 68 คาดติดลบต่อเนื่อง หลังดัชนีราคาผู้บริโภคต่ำ

04 กันยายน 2568
จับตา แถลงเงินเฟ้อ ส.ค. 68 คาดติดลบต่อเนื่อง หลังดัชนีราคาผู้บริโภคต่ำ

กระทรวงพาณิชย์เตรียมแถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2568 โดยคาดว่าจะยังคงติดลบต่อเนื่องหลังจากเดือนกรกฎาคมติดลบ 0.70%

ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำคือมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ เช่น การลดค่าไฟฟ้า, ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง และราคาผักผลไม้ที่ถูกลง

ภาพรวมคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจติดลบต่อเนื่องถึง 6 เดือน และคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2568 อยู่ที่ 0.5%

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 กันยายน เวลา 13.30 น. นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้แถลงข่าว ดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคม 2568 รวมถึง ผลการวิเคราะห์โอกาสการเบี่ยงเบนเส้นทางการค้า (Trade Diversion)

ทั้งนี้ต้องติดตามว่าดัชนีการบริโภคของไทยในเดือนสิงหาคม 2568 หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนกรกฎาคม 2568 เท่ากับ 100.15 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งเท่ากับ 100.86 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.70% ซึ่งเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคม 2568 คาดว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยมีปัจจัยสนับสนุน 4 เรื่อง

  1. ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างอ่อนแอและความถึงเครียดจากความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอยู่ในระดับจำกัด
  1. ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดการะค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2568 ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย
  2. ราคาผักสดและผลไม้สดอยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น

4.ค่าบริการด้านการท่องเกี่ยวปรับตัวลดลงตามสถามการณ์ด้านการท่องเกี่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคร่าว ๆ ประกอบกับผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อตอบรับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง

ขณะที่ ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น

  1. ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้ม สูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟเกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หลายสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะราคาน้ำมันพืชและเนื้อสุกร

  1. อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs)ต่อประเทศคู่ค้าต่าง ๆ มีความชัดเจนมากขึ้นโดยเป็นอัตราที่ต่ำกว่าครั้งก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น

"ทั้งนี้คาดการว่าอัตราเงินเฟ้อจะติดลบต่อถึง 6 เดือน คาดการณ์ทั้งปี ค่ากลาง 0.5% ขณะที่ GDP 1.3-2.8


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.